La La Land : นครดารา
หนังงน่าดู Netflix แนว Musical ที่ประทับใจใครต่อใครหลายคนมาแล้ว แถมยังคว้ารางวัลจากออสการ์ไปถึง 6 รางวัลอีก โดยเนื้อเรื่องของหนังนั้น ได้เล่าถึงมีอา ที่มีความฝันอยากจะเป็นดารา ส่วนชายหนุ่มเซบาสเตียน ที่ฝันอยากจะเป็นนักดนตรี และอยากเป็นเจ้าของคาเฟ่แจ๊สในมหานครแห่งนี้ เมื่อทั้งสองมาเจอกันจึงเกิดเป็นความรักขึ้นมา และได้ออกเดินทางตามความฝัน แต่ก็ต้องเจออุปสรรคอะไรอีกหลายๆ อย่าง เรื่องนี้ภาพสวย เพลงเราะ นักแสดงดี น่าดูมากๆ
Into The Wild : เข้าป่าหาชีวิต
หนังงน่าดู Netflix เรื่องต่อมานี้ เหมาะกับสายเข้าป่าและสายเหงาอย่างแท้จริง ว่าด้วยเรื่องราว ที่สร้างจากเรื่อยจริงของ คริสโตเฟอร์ แมคแคนเดิลส์ ที่ได้เรียบจบมหาลัยมาได้ไม่นาน แต่ด้วยความติสท์ และไม่อยากอยู่ในสังคมที่ต้องทำงานไปวันๆ เคา้จึงได้ออกไปตามหาชีวิตที่อลาสกา ที่ที่เค้าฝันว่าจะได้เจอธรรมชาติอันแสนสวยงาม ด้วยการเดินทางทั้งแสนจะลำบาก และมีอุปสรรคอีกมากมาย พร้อมกับเรื่องราวน่าตื่นเต้น ที่ตัวเค้าเองต้องเจออยู่ตลอดเส้นทาง การที่จะออกไปหาความหมายของชีวิต เค้าจะทำได้หรือไม่ หรือว่าทั้งหมดที่ทำมาเป็นความคิดที่ผิดพลาด อยากรู้ต้องไปติดตามดูกันได้ในหนังน่าดู Netflix กันต่อได้เลย หนังเรื่องนี้ภาพวิวและเสียงดีมากๆ ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีพอสมควรเลย
The White Tiger : พยัคฆ์ขาวรำพัน
หนังงน่าดู Netflix เรื่องต่อมานี้เป็นหนังอินเดีย ที่ไม่ใช่อินเดียแบบเวอร์วังที่เคยเห็นกันมานะ โดยหนังเรื่องนี้ได้สร้างมาจากนิยายชื่อดัง ที่พูดถึงเรื่องราวของ พลราม ฮาลไว เด็กที่มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ และมีหัวก้าวหน้าไปไกลกว่าเด็กทั่วไป แต่เหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้าง เพราะด้วยความยากจนจึงต้องไปช่วยพ่อ และพี่ชายทำงาน จนสุดท้ายก็ได้คิดนอกกรอบที่เคยอยู่ ไปเป็นคนขับรถให้มหาเศรษฐีในเมืองที่ชื่อ อโศก และ พิงกี้แฟนสาว จากการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นไปได้ สุดท้ายแล้วเขาก็โดนหักหลัง จนต้องคิดวิธีเอาตัวรอด เพื่อมาใช้ชีวิตของตัวเองให้ได้ เรื่องราวการเอาตัวรอดเพื่อหนีชีวิตจนตรอกของตัวเอง จะต้องก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำ และชนชั้นไปให้ได้ เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องตามไปดูกัน
Top Gun : ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า
หนังงน่าดู เก่าแต่ยังเก๋าอยู่อีกหนึ่งเรื่อง ที่เป็นหนังน่าดู Netflix ในตอนนี้ ทั้งความหล่อและความเท่แบบจัดๆ ของพระเอกชื่อดัง ทอม ครูซ ที่ทำให้แว่นแบรนด์ดัง Rey-Ban ถึงกับขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากับทรง Aviator หรือแว่นตี๋ใหญ่ หนังเรื่องนี้ได้พูดถึง มาเวอริค ผู้เป็นพระเอกในเรื่อง ที่มีนิสัยออกแนวหัวรั้น ได้ถูกเข้ามาประจำการอยู่ที่หน่วย Top Gun และชอบแหกกฏของทางการบินเป็นประจำ แต่เขาก็มีความมั่นใจในตัวเองสูง จนถึงขั้นสูงเกินไป จนทำให้เกิดเรื่องราวที่เลวร้ายขึ้น และสิ่งนั้นเป็นบทเรียนที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนชีวิตตัวเอง และกลับมาตั้งใจฝึกไปพร้อมกับหน่วย และยังได้เจอกับครูฝึกสุดสวยอย่าง ชาร์ลี ด้วย
The Naked Gun : From the files of Police Squad : ปืนเปลือย
Naked Gun 1 : From the Files of Police Squad! เป็นภาพยนตร์คอเมดี้อาชญากรรมอเมริกันปี 1988 ที่กำกับโดย เดวิด ซัคเกอร์ และเผยแพร่โดยพาราเมาท์พิคเจอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย เลสลี นีลเซน รับบทเป็นร้อยตำรวจโทแฟรงก์เดรบิน พริสซิลลา เพรสลีย์, ริคาร์โด้ มอนทาบัน, จอร์จ เคนเนดี และ โอ. เจ.
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความตลกขบขันอย่างรวดเร็วรวมถึงการเล่นมุขและภาพและคำพูดมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากตัวละครที่แสดงโดยนีลเส็นในซีรีส์ทางโทรทัศน์หน่วยตำรวจ! และยังเป็นภาคต่อของภาคหลัง ทีมสร้างสรรค์หลักที่อยู่เบื้องหลังทีมตำรวจ! และซีรีส์ภาพยนตร์รวมถึงทีมงานของ เดวิด ซัคเกอร์, จิม อับราฮัมส์ และ เจอร์รี ซัคเกอร์ รวมถึง แพท พรอฟต์ ในชุดต่างๆ
เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2531 ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ซึ่งนำไปสู่สองภาคต่อ: The Naked Gun 2 1⁄2 : The Smell of Fear (1991) และ Naked Gun 33 1⁄3 : The Final Insult (1994)
เรื่องย่อ
ร้อยตำรวจโทแฟรงก์เดรบินหยุดพักร้อนที่เบรุตขัดขวางการประชุมของศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา (อูเดย์อามีน, มูอัมมาร์กัดดาฟี, อยาตุลเลาะห์โคไมนี, ยัสเซอร์อาราฟัต, ฟิเดลคาสโตร และ มิคาอิลกอร์บาชอฟ) ที่พยายามคิดแผนการก่อการร้าย เพื่อทำให้สหรัฐฯอับอายในลอสแองเจลิสเจ้าหน้าที่นอร์ดเบิร์กพยายามจับกุมขบวนการค้ายาเฮโรอีนที่ท่าเรือซึ่งจัดโดยวินเซนต์ลุดวิกเจ้าของท่าเทียบเรือและถูกลูกน้องของลุดวิกยิง หลังจากกลับไปที่ LA และได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับคดีโดยหัวหน้าของเขากัปตัน เอ็ด ฮอคเกน เดรบินไปเยี่ยมนอร์เบิร์กในโรงพยาบาลนอร์ดเบิร์กให้เบาะแสที่เป็นความลับรวมถึงภาพเรือของลุดวิก ซึ่งมีการจัดการข้อตกลง แฟรงค์พบกับเท็ดโอลเซ่นนักวิทยาศาสตร์ของตำรวจผู้คิดค้นกระดุมข้อมือที่ยิงลูกดอกยากล่อมประสาท แฟรงค์เรียนรู้ผ่านเท็ดว่าเสื้อแจ็คเก็ตของนอร์ดเบิร์กทดสอบเฮโรอีนได้ดี
ทีมตำรวจมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยสำหรับการมาเยือนของควีนอลิซาเบธ ที่ 2 ที่ลอสแองเจลิสและเอ็ดบอกแฟรงก์ว่าเขามีเวลา 24 ชั่วโมงในการเคลียร์นอร์เบิร์กก่อนที่คำพูดจะออกมาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเบี่ยงเบนความสนใจจากการมาเยือนของราชินี
เมื่อแฟรงก์ไปเยี่ยมลุดวิกในที่ทำงานลุดวิกรู้ว่านอร์ดเบิร์กยังมีชีวิตอยู่ ลุดวิกมีเจนสเปนเซอร์ผู้ช่วยของเขาคอยช่วยเหลือแฟรงค์ในการสืบสวนและทั้งสองก็ตกหลุมรักกัน อย่างไรก็ตามเจนไม่รู้ถึงกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของนายจ้าง หลังจากแฟรงค์ออกจากที่ทำงานลุดวิกได้พบกับปาห์ชเมียร์ผู้เข้าร่วมการประชุมเบรุตเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการลอบสังหารราชินี ลุดวิกตกลงที่จะทำในราคา 20 ล้านดอลลาร์โดยที่ปาห์ชเมียร์สงสัยว่าเขามีแผนจะดึงมันออกไปอย่างไร ลุดวิกอธิบายว่าการใช้บี๊บเขาจะสร้างมือสังหารโดยใช้คำแนะนำหลังการสะกดจิต ลุดวิกพยายามฆ่านอร์ดเบิร์กที่โรงพยาบาลไม่สำเร็จ ขณะที่หมอสะกดจิตหลบหนีแฟรงก์เขาบังเอิญลงเอยด้วยการขี่ขีปนาวุธเข้าไปในร้านดอกไม้ไฟโดยไม่ทราบแรงจูงใจในการลอบสังหาร
แฟรงค์บุกเข้าไปในสำนักงานของลุดวิกในขณะที่เขาไม่อยู่เพื่อค้นหาหลักฐาน แม้ว่าแฟรงก์จะพบข้อความจากปาห์ชเมียร์ที่ส่งถึงลุดวิกซึ่งเป็นการยืนยันความสงสัยของเขา แต่เขาก็เริ่มจุดไฟที่ทำลายโน้ตและสำนักงานโดยไม่ได้ตั้งใจ ต่อมาแฟรงค์ได้พบกับชายคนหนึ่งของลุดวิกที่โรงงานของเขาในโกดังและหลังจากนั้นเขาก็เผชิญหน้ากับลุดวิกด้วยข้อกล่าวหาของเขาที่งานเลี้ยงต้อนรับการมาถึงของราชินี แฟรงค์ตีความการนำเสนอปืนคาบศิลาของลุดวิกต่อราชินีอย่างผิด ๆ ว่าเป็นการโจมตีและพยายามปกป้องเธอ แต่กลับทำให้เกิดปัญหามากขึ้นและถูกไล่ออกจากหน่วยตำรวจ หลังจากนั้นเจนก็ค้นพบเกี่ยวกับพล็อตเรื่องนี้และบอกแฟรงค์ว่าแผนจะดำเนินการในเกมเบสบอลระหว่างซีแอตเทิลกะลาสีเรือและนางฟ้าแคลิฟอร์เนียที่สนามกีฬาอนาไฮม์ในช่วงโอกาสที่ 7 และผู้เล่นคนใดคนหนึ่งจะแสดง
ทีมตำรวจมาถึงสนาม ในการค้นหาผู้เล่นแฟรงค์เคาะผู้ตัดสินเจ้าบ้านด้วยไม้เบสบอลและเข้ามาแทนที่ผู้เล่นเพื่อหาอาวุธในขณะที่พวกเขากำลังตีไม้ตี โอกาสที่เจ็ดเริ่มต้นขึ้นและลุดวิกก็เปิดใช้งาน “ไม้หมอน” ของเขาเรกกีแจ็คสัน เจนแจ้งเตือนแฟรงก์ที่ไล่ตามแจ็คสันและเข้าสกัดเขา แต่แจ็คสันพยายามหนีเมื่อการกระทำของแฟรงก์เริ่มทะเลาะวิวาทกัน ลุดวิกจับเจนจ่อขณะเริ่มออกจากสนามขณะที่แจ็คสันเล็งไปที่ราชินี แฟรงค์พยายามที่จะทำให้แจ็คสันไร้ความสามารถด้วยลูกดอกกระดุมข้อมือ แต่พลาดไปโดนผู้หญิงตัวใหญ่ที่ดาดฟ้าชั้นบน ผู้หญิงคนนั้นล้มลงบนราวบันไดและตกลงมาที่แจ็คสันทำให้เขาไร้ความสามารถและช่วยชีวิตราชินี
แฟรงค์ตามลุดวิกไปที่ด้านบนสุดของสนามกีฬาและยิงลุดวิกด้วยลูกดอกคัฟลิงค์ทำให้เขาล้มลงข้างสนามที่ซึ่งเขาถูกรถบัสวิ่งผ่านวิ่งทับด้วยเรือกลไฟและเหยียบย่ำโดยวงโยธวาทิตของยูเอส . สมาชิกในวงบางคนเหยียบบี๊บเปอร์ของลุดวิกโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้เจนพยายามฆ่าแฟรงก์ด้วยปืนของลุดวิก แฟรงก์หยุดสถานะที่ถูกสะกดจิตของเจนโดยเปิดเผยความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอและมอบแหวนหมั้นให้กับเธอ แฟรงก์และเจนได้พบกับนายกเทศมนตรีบาร์คลีย์ซึ่งทำให้แฟรงก์กลับสู่ทีมตำรวจและนอร์ดเบิร์กที่ฟื้นคืนมาก็แสดงความยินดีกับเขา – จนกระทั่งแฟรงก์ผลักรถเข็นของนอร์ดเบิร์กลงบันไดสนามโดยไม่ได้ตั้งใจ
Django Unchained : จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน
DJANGO UNCHAINED จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน เรื่องราวเกิดขึ้นทางตอนใต้สองปีก่อนหน้าสงครามกลางเมืองจะอุบัติ นำแสดงโดยดาราตุ๊กตาทอง เจมี่ ฟ็อกซ์ ในบท จังโก้ ทาสผู้ซึ่งประวัติร้ายกาจของเขากับอดีตนายจ้างทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับดร.คิง ชูลซ์ (คริสตอฟ วอลซ์ ดาราเจ้าของรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดและ ออสการ์ อวอร์ด) นักล่าค่าหัวชาวเยอรมัน ชูลซ์กำลังไล่ล่าพี่น้องฆาตกรบริทเทิล และมีเพียงจังโก้เท่านั้นที่สามารถนำทางเขาไปสู่เหยื่อที่เขาหมายปองได้ ชูลซ์ ผู้มีนิสัยพิลึกพิลั่นได้ให้จังโก้นำทางเขา โดยสัญญาว่าจะปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ หลังจากจับตัวพี่น้องบริทเทิลได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
ความสำเร็จทำให้ชูลซ์ปล่อยตัวจังโก้ แม้ว่าทั้งคู่เลือกที่จะไม่แยกทางกันเดินก็ตาม ชูลซ์เลือกที่จะตามเด็ดหัวอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวสูงสุดของฝ่ายใต้ โดยมีจังโก้เคียงข้าง จังโก้ ที่ขัดเกลาทักษะการล่าที่จำเป็น ยังคงมีปณิธานแน่วแน่อยู่กับสิ่งเดียว นั่นคือการตามหาและช่วยเหลือบรูมฮิลดา (เคอร์รี วอชิงตัน) ภรรยาที่เขาเสียไปให้กับการค้าทาสเมื่อนานมาแล้วท้ายที่สุดแล้ว การค้นหาของจังโก้และชูลซ์ก็นำพวกเขาไปหาเคลวิน แคนดี้ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด) เจ้าของ “แคนดี้แลนด์” ไร่ชื่อฉาวโฉ่
การสำรวจบริเวณไร่ภายใต้ข้ออ้างปลอมๆ ทำให้จังโกและชูลซ์ไปปลุกเร้าความสงสัยของสตีเฟน (ซามวล แอล. แจ็คสัน ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี่ อวอร์ด) ทาสที่ได้รับความไว้วางใจจากแคนดี้ การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกจับตามองและองค์กรร้ายก็รุกคืบโอบล้อมพวกเขาไว้ ถ้าจังโก้และชูลซ์จะหนีไปพร้อมกับบรูมฮิลดาให้ได้ล่ะก็ พวกเขาจะต้องเลือกระหว่างความเป็นตัวของตัวเองและความสามัคคี ระหว่างการเสียสละและการเอาตัวรอด
The Taking of Pelham 123 : ปล้นนรก รถด่วนขบวน 123
วอลเตอร์ การ์เบอร์ (Denzel Washington) พนักงานการรถไฟที่ตื่นเช้ามาพร้อมคิดว่าวันนี้ก็คงเป็นวันธรรมดาอีกวัน แค่ทำงานแล้วกลับบ้านพบหน้าภรรยา แต่แล้วเขากลับต้องพบกับสถานการณ์จับตัวประกัน เมื่อรถไฟใต้ดินแห่งมหานครนิวยอร์ก สายเพแลห์ม 123 ถูกยึดโดยผู้ก่อการร้าย 4 คน นำโดยชายที่เรียกตัวเองว่า ไรเดอร์ (John Travolta) พร้อมเสนอข้อเรียกร้องค่าไถ่ตัวประกันซึ่งก็คือผู้โดยสารบนรถ ให้จ่ายเงินมาภายในเวลา 15.15 น. ไม่เช่นนั้นตัวประกันจะต้องตายเรียงตัว
หนังเคยสร้างมาแล้วหนหนึ่งครับ ในปี 1974 โดย Walter Matthau แสดงเป็นการ์เบอร์ และ Robert Shaw แสดงเป็นไรเดอร์ (แต่ในฉบับนั้นเขาจะใช้ชื่อว่า บลู ครับ) ตัวหนังได้รับคำชมไปเยอะทีเดียว แต่ผมก็ยังไม่เคยดูครับจึงไม่ขอเปรียบเทียบกัน
สำหรับฉบับนี้ก็จัดว่าดูสนุกครับ ตื่นเต้น ลุ้น ฉับไวตามสไตล์ผู้กำกับ Tony Scott ผู้ล่วงลับ ตอนต้นก็แนะนำตัวละครก่อนจะเข้าเรือง แต่พอได้เข้าเรื่องเท่านั้นล่ะครับความน่าติดตามก็มาเป็นพักๆ แม้หนังจะออกแนวจับตัวประกัน มีการเจรจาบ้าง ฆ่ากันบ้าง ลุ้นกับบ้าง โดยรวมมันอาจเดิมๆ แต่ก็ขอยกความดีความชอบให้ลุง Tony ที่คุมหนังได้ดี ดูสนุกออกรสลุ้นกำลังดี
อีกส่วนคือพลังนักแสดงที่หายห่วงแน่นอนครับ Washington ไปได้ดีมากๆ กับบทการ์เบอร์ แววตาท่าทางนี่ไปตามบทหมดครับ อย่างตอนเขาโดนไรเดอร์บีบให้พูดเรื่องในเรื่องที่ไม่อยากพูดแล้วตาก็ค่อยๆ แดง น้ำตาค่อยๆ ไหลนั่นสุดยอดมาก ส่วน Travolta ก็ผ่านฉลุยล่ะครับกับบทร้ายแบบนี้ แค่ทำหน้าเหี่ยมๆ กวนๆ แววตาดุดันก็เชื่อแล้วล่ะครับว่านายคนนี้พร้อมจะฆ่าคนทุกคนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ และยังเป็นคนประเภทเชื่อมั่นในตนเองสูง เชื่อในสิ่งที่ตนเองคิดและกล้าลงมือกระทำด้วย ขณะเดียวกันบทของไรเดอร์ก็ไม่ได้ร้ายแบบไร้มิติครับ เขามีเหตุผลในการทำ มีการวางแผน เรียกว่าเป็นตัวร้ายประเภทที่ใช้ได้ทั้งสมองและกำลัง
แล้วก็ยังมี John Turturro ในบทเจ้าหน้าที่คาร์โมเน็ตติ ที่มาช่วยเจรจาและประสานงานในการหยุดแผนของไรเดอร์ คนนี้ก็มืออาชีพไม่แพ้กันครับ แม้ความเด่นจะไม่มากเท่า 2 ดารานำแต่ก็คอยเสริมความแน่นให้กับเรื่องราวได้ดี และ James Gandolfini ในบทนายกเทศมนตรีที่แสดงอีกมุมหนึ่งของตัวละครประเภทนักการเมืองได้ดีครับ เพราะปกติเราจะเห็นนักการเมืองประเภทหวงเก้าอี้ ทำทุกอย่างเพื่อรักษาคะแนนนิยม แต่กับนายกคนนี้เป็นนายกที่เบื่อการเมืองครับ ไม่ลงสมัยหน้าเลยไม่ต้องห่วงคะแนนอะไรอีก ไปๆ มาๆ ก็พลอยไม่เหลือไฟจะทำงานอะไร ระหว่างดูไปก็รู้สึกแปลกดีครับ เป็นนายกลักษณะที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไรจริงๆ
ครับ แม้หนังจะไม่สดใหม่อะไรมากในส่วนของเนื้อเรื่อง แต่ด้วยดาราดีๆ การเดินเรื่องมันส์ๆ ก็ทำให้เราเพลินไปกับหนังเรื่องนี้ได้ อีกอย่างที่ผมชอบคือทุกตัวละครมีมิติครับ มีมุมความเป็นคน หรืออย่างตัวการ์เบอร์กับไรเดอร์หนังก็สามารถสร้างสัมพันธภาพที่น่าสนใจให้เกิดขึ้นได้ เพราะแม้ทั้งคู่จะอยู่คนละฟาก แต่ลึกๆ ก็มีความนับถือและเห็นใจต่อกัน เพียงแค่การ์เบอร์ก็นับถือเห็นใจแบบฝ่ายพระเอก ส่วนไรเดอร์ก็มีน้ำใจแบบโจรที่แม้จะเห็นใจใครแค่ไหน แต่ก็ต้องคิดถึงตัวเองก่อน อีกทั้งเป็นคนประเภทคิดยังไงก็พูดอย่างนั้น อย่างตอนพี่แกเปิดปากด่าชาวบ้าน บางครั้งก็สะใจดีล่ะครับ เพราะมันก็เป็นความจริงในหลายเรื่องทีเดียว
รายละเอียดเล็กๆ ที่ดาราใส่กันลงมาก็ทำให้รสชาติหนังอร่อยขึ้น เมื่อมาผสมกับลีลาเล่าเรื่องแบบว่องไวแต่ได้ประเด็นแบบลุง Tony ผลที่ได้เลยเป็นผลงานที่น่าพอใจอีกเรื่องของเขาน่ะครับ
More Stories
เปลี่ยนบ้านจัดสรรให้กลายเป็นบ้านในฝัน สวยหรู น่าอยู่ทุกมุม
ส่องคอนโด Duplex แบบห้อง 2 ชั้น พื้นที่กว้าง สบายเหมือนอยู่บ้าน
ไอเดียDIY ชั้นวางของจากวัสดุเหลือใช้ เนรมิตในสไตล์ตัวเองง่าย ๆ ไว้แต่งบ้านก็ได้